ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นที่ อัศจรรย์เจดีย์ “ไจก์ทีโย” (พระธาตุอินทร์แขวน) เมืองสะเทิม รัฐมอญ ประเทศพม่า
โดย เนาว์ นรญาณ
กล่าวนำ
หลังจากที่ได้เคยพาทุกๆท่านไปกราบไปไหว้ไปสาพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง พระเจดีย์ทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด อันเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุแห่งองค์ สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง 8 เส้น พร้อมด้วยพุทธบริขารของอดีตพระพุทธเจ้าอีกถึง 3 พระองค์ จนเป็นที่ซาบซึ้งตรึงใจมาพอสมควรแล้ว บัดนี้ ก็ถึงเวลาจาริกแสวงบุญไปกราบไหว้พระเจดีย์ที่สำคัญอย่างมากๆถึงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศพม่าแห่งต่อไป
และการจาริกไปกราบไหว้สาพระเจดีย์องค์ใหม่นี้ ก็น่าที่จะเป็นที่ถูกอกถูกใจและปลื้มปีติใจแก่หลายๆคนที่เกิด “ปีจอ” หรือต้องการได้รับ “สิริมงคล”พิเศษรับปีจอ ซึ่งเพิ่งจากเปลี่ยนศักราชใหม่เมื่อวันมหาสงกรานต์ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆนี้เอง
เหตุที่เป็นเยี่ยงนั้น ก็เพราะพุทธสถานแห่งที่จะได้เล่าถึงต่อไปนี้ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ “ปี”และ “ชะตา”ของบุคคลจำนวนไม่น้อยใน “กาละ”และ “เทศะ” เวลาปัจจุบันบัดเดี๋ยวนี้..??????
นั่นก็คือ เรื่องของพระเจดีย์ “ไจก์ทีโย” หรือที่หลายๆท่านรู้จักมักคุ้นจนเจนตาเจนใจเป็นอย่างดีในหนังสืออมตะอันสุดแสนจะละเมียดละไมและโรแมนติกแบบสุดๆเรื่อง “เจ้าจันทร์ผมหอม”ในชื่อ “พระธาตุอินทร์แขวน” อันประดิษฐานอยู่บนยอดเขาสูง เมืองสะเทิม รัฐมอญ ประเทศพม่านั่นแล...............
เพราะพระเจดีย์ไจก์ทีโย พรือพระธาตุอินทร์แขวนนี้ เป็นพระเจดีย์ประจำปี “เส็ด” หรือปี “จอ” ตามคตินิยมแห่งล้านนาไทยเรานี่เอง...!!!!!!!!!!!!
เริ่มเห็นความ “สำคัญ”สูงสุดที่เกี่ยวข้องนี้แล้วใช่หรือไม่??????
ตามประเพณีจารีตของล้านนาโบราณ ได้กำหนดไว้ว่า คนที่เกิดในปีใด ควรจะได้ไปกราบไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อเป็นการเสริมสร้างสิริมงคล เสริมดวงชะตาราศีให้เจริญรุ่งเรือง และยังเป็นการสร้างสมบุญกุศลอย่างสูงอีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.คนเกิดปี “ไจ้”ชวด(หนู) ไหว้พระธาตุจอมทอง เชียงใหม่
2.คนเกิดปี “เป้า”ฉลู (วัว) ไหว้พระธาตุลำปางหลวง ลำปาง
3.คนเกิดปี “ยี”ขาล(เสือ) ไหว้พระธาตุช่อแฮ แพร่
4.คนเกิดปี “เม้า”เถาะ (กระต่าย) ไหว้พระธาตุแช่แห้ง น่าน
5.คนเกิด “สี” มะโรง(งูใหญ่) ไหว้พระพุทธสิหิงค์ หรือพระธาตุวัดพระสิงห์ เชียงใหม่
6.คนเกิดปี “ไส้” มะเส็ง(งูเล็ก) ไหว้พระเจดีย์พุทธคยาหรือไม้พระศรีมหาโพธิ์ อินเดีย
7.คนเกิด “สะง้า” มะเมีย (ม้า) ไหว้พระเจดีย์ชเวดากอง ย่างกุ้ง พม่า
8.คนเกิดปี “เม็ด” มะแม (แพะ) ไหว้พระธาตุดอยสุเทพส เชียงใหม่
9.คนเกิดปี “สัน” วอก (ลิง) ไหว้พระธาตุพนม นครพนม
10.คนเกิดปี “เล้า”ระกา (ไก่) ไหว้พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน
11.คนเกิดปี “เส็ด” จอ (สุนัข) ไหว้พระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หรือพระธาตุอินทร์แขวน พม่า
12คนเกิดปี “ไก้” กุน(หมู) ไหว้พระธาตุดอยตุง เชียงราย
พระเจดีย์ไจก์ทีโย(พระธาตุอินทร์แขวน) พระมหาเจดีย์จุฬามณีบนโลกมนุษย์
ก็ในเมื่อโบราณาจารย์ท่านกำหนดให้ถือว่า “พระเจดีย์จุฬามณี” ซึ่งตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า องค์พระอมรินทราธิราช หรือ “พระอินทร์” ผู้เป็นจอมเทวะได้สร้างขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสพิภพ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระเมาลีและพระเขี้ยวแก้วขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีจอแล้ว ก็คงเป็นสิ่ง “เกินวิสัย”ของสามัญชนผู้ไม่ได้ “อิทธิวิสัย” ที่จะ “ถอดจิต”หรือ “เดินญาณ”ด้วยอำนาจฌาณสมาบัติขั้นไปกราบนมัสการเป็นสิริมงคลแก่ตนเองได้ จึงได้มีการสมมุติให้ถือเอา “พระธาตุอินทร์แขวน” ซึ่งตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า เป็นพระเจดีย์ที่พระอินทร์ได้ทรงสร้างไว้เหมือนกันกับพระเจดีย์จุฬามณี ก่อให้เกิดความยอมรับนับถือกันโดยทั่วไปว่า พระเจดีย์ไจก์ทีโยหรือพระธาตุอินทร์แขวนนี้ คือพระเจดีย์จุฬามณีบนโลกมนุษย์ อันควรค่าแก่การไหว้สาสักการะเป็นยิ่งนัก
อันพระเจดีย์ไจก์ทีโย หรือพระธาตุอินทร์แขวนองค์นี้ เดิมทีมีชื่อมอญเรียกว่า “ไจกิทิโย” อันมีความหมายว่า “พระเจดีย์เศียรฤาษี” เหตุด้วย มีพระฤาษีตนหนึ่ง ชื่อว่า “ติสสะ” ได้รับพระทานพระเกศาธาตุจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีคราวเสด็จจาริกมาโปรดสรรพสัตว์ในเขตสุวรรณภูมิแห่งนี้ โดยพระฤาษีตนนั้นได้เก็บพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ในมวยผมตนเอง ต่อมาเมื่อพระฤาษีชราภาพมาก และเห็นว่าอีกไม่ช้า ตนก็คงต้องละสังขารแล้ว ก็ใคร่จะหาที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุที่เหมาะสม เพื่อจะได้เป็นที่ไหว้สาสักการะของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายสืบไป การดังนี้ได้ล่วงรู้ไปถึงพระอินทราธิราช พระองค์ได้เสด็จลงมาอาสาที่จะสร้างพระเจดีย์ถวาย แต่พระฤาษีติสสะก็มีข้อแม้ว่า พระอินทร์จะต้องหาก้อนหินที่มีลักษณะรูปทรงสัณฐานเหมือนกับศีรษะของพระฤาษีให้ได้เสียก่อน ซึ่งพระอินทร์ก็ได้ใช้เทวฤทธิ์ ยกเอาหินก้อนหนึ่งมาจากใต้ทะเลลึก มีลักษณะถูกต้องตามความต้องการของติสสะฤาษีตนนั้นทุกประการ ติสสะฤาษีก็พอใจยินยอมอัญเชิญพระเกศาธาตุมาให้กับพระยาอินทราธิราช ๆก็ใช้พระขรรค์แทงลงในหินก้อนนั้นเป็นช่องว่าง พร้อมกับอัญเชิญพระเกศาธาตุลงบรรจุ ก่อนนำไปแขวนไว้ที่ยอดเขา Puang Luang ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่เมืองสะเทิม รัฐมอญ ประเทศพม่า (อยู่ใกล้เคียงในเส้นรุ้งเดียวกับอ.ท่าสองยาง จ.ตาก ประเทศไทย) พระธาตุเจดีย์องค์นี้ จึงได้ชื่อว่า “ไจกิติโย” หรือภายหลังกร่อนคำลงเหลือ “ไจก์ทีโย” อันแปลตรงตัวได้ความว่า “พระเจดีย์เศียรฤาษี” แต่คนไทยนิยมเรียกว่า “พระธาตุอินทร์แขวน” ซึ่งแม้แต่คนพม่าเอง ก็ยังชมเชยว่า คนไทยเรียกชื่อพระธาตุองค์นี้ได้ “ตรงเป้า”มากที่สุดเลยทีเดียว
สำหรับอิทธิปาฏิหาริย์ของพระเจดีย์ “ไจก์ทีโย”หรือ “พระธาตุอินทร์แขวน” ซึ่งพระอินทร์เป็นผู้สร้างนั้น แน่นอนว่า จะต้องมีพุทธานุภาพแห่ง “พระเกศาธาตุ” และ “เทวานุภาพ”ของพระอินทร์แฝงไว้อย่างท่วมท้นไม่ต้องสงสัย หนึ่งก็เป็นเล่าลือกันมาแต่โบราณแล้วว่า แต่ก่อนนั้น พระธาตุอินทร์แขวนไจก์ทีโยนี้ “แขวน”หรือ “ลอย”อยู่เหนือพื้นหินภูเขาจริงๆ โดยลอยสูงจากพื้นประมาณ แม่ไก่ลอดเข้าไปกกไข่ได้ แต่ต่อมา เมื่อจิตใจของมนุษย์ในโลกตกต่ำลง ประกอบกับมี “เจ้าหญิงพม่า(โบราณ)” องค์หนึ่ง คิดจะเรียกร้อง “สิทธิสตรี”ว่าต้องเสมอเทียมเท่ากับผู้ชาย (ประมาณเดียวแบบเดียวกับคุณเธอ “ระเบียบจัด”ของสยามประเทศ อย่างไรก็อย่างนั้น) เลยก้าวล่วงเข้าไปในเขตหวงห้ามที่ห้ามสตรีเข้าไปอย่างเด็ดขาดที่พระธาตุอินทร์แขวน จึงเกิดอาเพศร้ายแรง ทำให้องค์พระธาตุลอยต่ำลงมาจนชิดกับพื้นหินยอดเขาแบบเหลื่อมล้ำหมิ่นเหม่ชวนให้หวาดเสียวว่าจะหล่นมิหล่นแหล่เต็มที แต่องค์พระเจดีย์ไจก์ทีโยก็ยังตั้งอยู่ได้เป็นอัศจรรย์ ด้วยความสูงที่เอาด้ายเส้นยาวๆลอดได้ หรือสามารถช่วยกันโยกให้องค์พระธาตุเอียงไปเอียงมาได้ แต่ก็ไม่เคยหลุดหล่นไปจากที่ แม้จะผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างแรงมานับครั้งไม่ถ้วน แต่พระธาตุไจก์ทีโยอินทร์แขวนก็ยังคงตั้งตะหง่านงาม ท้าทายต่อทุกสายตาของทุกผู้คนทั่วโลกให้เป็นที่อัศจรรย์แก่ตาแก่ใจมาตราบเท่าถึงวินาทีนี้
อนึ่ง จากหนังสือนวนิยายซีไรท์อันโด่งดังอย่าง “เจ้าจันทน์ผมหอม” ของ “มาลา คำจันทร์” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก “พระธาตุอินทร์แขวนไจก์ทีโย” ก็ได้บันทึกไว้เลยทีเดียวว่า
“ชื่อพระธาตุอินทร์แขวนนี้ เป็นที่รู้จักกันดีของคนเฒ่าคนแก่แถบ ลำปาง พะเยา เชียงราย ตำนานพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งเป็นพระธาตุที่พระอินทร์ เจ้าฟ้าตาวติงสาโลกลงมาแขวนไว้ในเมืองคนนี้ ผู้เขียน(มาลา คำจันทร์) เคยได้รับฟังจากย่าผู้ล่วงลับเล่าว่า อยู่ไกลสุดแสนที่แดนฟ้าหลั่ง ใครได้ไหว้พระธาตุอินทร์แขวน ก็เท่ากับได้ไปไหว้พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ มีสิทธิ์สะสมผลานิสงส์ไปเกิดร่วมยุคกับพระศรีอาริยเมตตรัย”“.......เจ้าจันทร์แก้วยื่นฟ้า เจ้างามหล้าลือโลกโศกหมอง พระธาตุอินทร์แขวนหมายแทนเอาเป๋นพระธาตุประจำปีเกิด วาดไว้ว่าสูงเลิศส่งลอยทะลุอกฟ้า " (เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน หน้า105")
ตามรอย “เจ้าจันทร์ผมหอม” พบเหตุอัศจรรย์เจดีย์ “ไจก์ทีโย”แต่แม้ผู้เขียนจะไม่ได้เป็นคนเกิดปีจอ ซึ่งมีพระธาตุอินทร์แขวนเป็นพระธาตุประจำปีเกิด และไม่ได้หวังจะไปพระธาตุอินทร์แขวนเพื่อเอาเส้นผมไปลอดเสี่ยงทายแบบเจ้าจันทร์ผมหอมอย่างที่ว่าก็ตาม แต่ด้วยความเป็นพุทธศาสนิกชนที่นับถือพรพุทธองค์ เป็นสรณะหลักอย่างเหนียวแน่น พร้อมกับคิดด้วยว่า ปีนี้เป็น “ปีจอ” แล้ว หากเราไปไหว้ไปสาพระธาตุอินทร์แขวนไจก์ทีโย ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจอ ก็น่าที่จะทำให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคลตลอดปีจอนี้ด้วยเช่นกัน.
เส้นทางสู่...พระธาตุอินทร์แขวน
เส้นทางสู่...พระธาตุอินทร์แขวน : พระธาตุอินทร์แขวน อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 180 กิโลเมตร โดยนั่งรถผ่านเมืองหงสาวดีมาสู่ คิมปูนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้เที่ยว ระยะทาง 170 กิโลเมตร) ใช้เวลา 4 - 5 ชั่วโมง จากนั้นก็นั่งรถบรรทุกหกล้อเดินทางสู่จุดเดินเท้า (ระยะทาง 8 กิโลเมตร) ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง
จุดเดินเท้าหรือจุดที่นั่งเสลี่ยง ค่านั่งเสลี่ยงก็ประมาณ 700-800.-บาท ปัญหาของการนั่งเสลี่ยงก็มีบ่อยครับ คือว่าระหว่างทางที่นั่งเสลี่ยง คนหามก็พยายามให้เราซื้อโค้กให้ โดยบอกว่าหิวน้ำบ้าง ถ้าเราไม่ซื้อก็แกล้งเดินแบบเหวี่ยงๆให้หวาดเสียวหน่อย แต่พอเราซื้อให้ก็ต้องซื้อให้ทั้ง 4 คน ราคาประมาณกระป๋องละ 50 บาท แล้วเขาก็จะเอามาแลกคืนที่ร้านค้าที่เขาซื้อนั่นแหละ พอขึ้นไปถึงข้างบนก็จะขอทิปอีก ถ้าไม่ให้ก็ไม่ยอมไป แบบว่าต้องเอาให้ได้ แต่พอทางหัวหน้าทัวร์ไปถามเรื่องซื้อน้ำหรือเรื่องทิป เขากลับโกหกว่าลูกค้าซื้อให้เขาเอง ลูกค้าให้ทิปเขาเอง เขาไม่ได้เรียกร้อง พอขากลับเขาก็จะขอทิปเราอีกครั้งเหมือนเดิม.... สำหรับเรื่องนี้ก็ต้องทำใจ "กลัวไปทำบุญแล้วได้บาปในใจกลับมาครับ"...
เส้นทางเดินเท้าสู่พระธาตุอินทร์แขวน ระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมงครับ หากว่านั่งเสลี่ยง ก็ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เส้นทางเดินเท้าสู่พระธาตุอินทร์แขวน เป็นถนนแบบคอนกรีต เดินแบบสบาย แต่ชันสักหน่อย มีที่หยุดพักตลอดเส้นทาง สองข้างทางก็จะผ่านบ้านชาวบ้านและช่วงสุดท้ายก็จะเดินตามถนนก็ได้หรือเลือกเดินทางลัดก็ได้ โดยผ่านบ้านชาวบ้าน ระยะทางประมาณ 200 เมตรครับ
สำหรับที่พักบนพระธาตุอินทร์แขวน มีโรงแรมอยู่ 2 ที่ครับ ก็อย่างในรูป เป็นโรงแรมของรัฐบาลทั้งหมด ห้องพักแบบธรรมดา มีพัดลมกับน้ำอุ่นเท่านั้นครับ